ส้มตำปลาร้า .. พาน้ำลายสอ

Friday, April 15, 2011 0 comments
ใครๆคงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ชอบส้มตำ โดยเฉพาะส้มตำปลาร้า แต่วันนี้มีบทความสาระสุขภาพจาก สสส.เตือนเรื่องส้มตำปลาร้ามาฝาก

จะว่าไปแล้ววัฒนธรรมการกินและการประกอบอาหารของแต่ละท้องถิ่น เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่บ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่มีการนำเอาสิ่งที่เหลือใช้จากการบริโภคมาปรับเปลี่ยนให้เกิดเป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งได้อย่างน่าอัศจรรย์ ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ คนใต้ชอบกินน้ำบูดู คนอีสานชอบกินน้ำปลาร้า
อาหาร 2 ชนิดนี้ แม้ชื่อต่างกัน แต่กรรมวิธีการทำนั้นไม่แตกต่างกันเลย
น้ำบูดู เป็นการนำปลาไส้ตันตัวเล็กๆ มาหมักด้วยเกลือให้ได้ที่ แล้วเอาแต่น้ำใสๆ หรือบางทีอาจมีเนื้อปลาปนมาบ้างมาใช้ในการบริโภค
ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ส่วนปลาร้าจะนำปลามาหมักกับเกลือ เมื่อได้ที่แล้วก็ใส่ข้าวคั่ว บางคนกินกันเป็นตัวๆ หรือบางรายก็นำแต่น้ำปลาร้ามาใช้เป็นส่วนผสมของอาหารชนิดต่างๆ
แต่ที่ขึ้นหน้าขึ้นตาและเป็นที่นิยมที่สุดเห็นจะเป็น ส้มตำปลาร้า
ซึ่งนับว่าเป็นอาหารขึ้นชื่อและพบได้ทั่วไป ไม่เว้นแม้แต่ในร้านอาหารใหญ่ๆ ท่านที่ชอบทานคงต้องระวังกันสักนิดเพราะอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน
สำหรับเชื้อชนิดนี้ มักพบในปลาร้าคือ เชื้อคลอสทริเดียม เปอร์ฟริงเจนส์
หากได้รับเชื้อนี้เข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดโรคท้องร่วง กระเพาะอาหารอักเสบ เป็นไข้ อาเจียน
 มีที่ใดที่ตรวจพบการปนเปื้อน ดูได้จากตารางด้านล่าง
ทางที่ดี ผู้บริโภคควรต้องระมัดระวังในการเลือกซื้อและเลือกรับประทานอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพเองด้วย
ควรมีการอุ่นอาหารทุกครั้งก่อนรับประทานเสมอ ป้องกันไว้ก่อนดีที่สุด.
Read more »

wowowow กั้งกระดานชวนชิมส้มตำคั่วแซบwowowow

Wednesday, April 13, 2011 0 comments
เมื่อมาร้านส้มตำทั้งทีเราเก๊าะต้องสั่งส้มตำสิคะ มาเรยยค่าตำซั่ว ขอบอกว่าร้านนี้กินสิบครั้งอร่อยเหมือนกันทั้งสิบครั้งไม่รู้เค้าทำยังไง...
  สวัสดีค่ะพี่น้องก้นครัว เปิดประเดิมมาวันจันทร์อย่างนี้เราควรจะหาอะไรแซบ ๆ หม่ำกันให้รื่นรมย์ดีไหมคะ? เจี๊ยบจะพาไปกินอาหารใกล้ ๆ บ้านชื่อร้านส้มตำคั่วแซบ ค่ะร้านนี้จะอยู่ตรงหัวมุมทางเข้ากองทัพอากาศพอดิบพอดีเลยค่ะ แต่ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ว่าเมื่อกี๊ไปกินมามันมืดเลยไม่ได้ถ่ายรูปหน้าร้านมาให้ดูกัน เอาเป็นว่าดูบรรยากาศในร้านก่อนนะคะ
 http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2011/02/D10216008/D10216008.html
Read more »

ห่อหมกปลาสำลี

0 comments
ห่อหมกปลาสำลี

ลาสำลีในส่วนที่รับประทานได้ 100 กรัม ให้โปรตีน 19 กรัม แคลเซียม 447 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 418 มิลลิกรัม ซึ่งนับว่าเป็นสัดส่วนที่ดี ในการสร้างกระดูกและฟัน คือ อัตราส่วนระหว่าง แคลเซียมกับฟอสฟอรัส ใกล้เคียงกัน และเป็นปริมาณที่สูงกว่า ที่มีอยู่ในนม 1 แก้ว
เครื่องปรุง
(รับประทาน 4 คน)
 

ปลาสำลีขนาด 7 ขีด 1 ตัว

ไข่ไก่ 1 ฟอง

น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ

อายิโนะโมะโต๊ะ 1/2 ช้อนชา

ใบมะกรูดซอยละเอียด (สำหรับใส่ในตัวปลา และใช้โรยตัวปลา ก่อนเสิร์ฟ) 3 ใบ

ต้นหอมหั่นฝอย 2 ต้น

แป้งทอดกรอบ
 

น้ำมันสำหรับทอดปลา
 

น้ำพริกแกงคั่วโขลกละเอียดแบ่งออกเป็น 2 ส่วน

สำหรับใส่ตัวปลา 1 ส่วน

สำหรับตักราดบนตัวปลา 1 ส่วน

หัวกะทิคั้นข้นๆ 3 ถ้วย

ผักต้มที่ใช้รับประทานกับห่อหมก เช่น ใบยอ กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ ถั่วฝักยาว กระเจี๊ยบฝักเขียว ผักกาดขาว ฯลฯ ส่วนใบโหระพาไม่ต้องลวก
วิธีทำ
1. ต่อยไข่ใส่ชามผสม ใส่น้ำพริกลงคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่น้ำปลา น้ำตาลปีบ อายิโนะโมะโต๊ะ คนให้เข้ากัน โรยใบมะกรูด ต้นหอมหั่นฝอย คนให้ทั่ว
2. นำปลามาแผ่ออกวางบนชามที่จะใช้นึ่ง ตักส่วนผสมในข้อ 1 ใส่ลงตรงกลางตัวปลา แล้วประกบให้ติดกัน นำไปนึ่งสุก ทิ้งให้เย็น
3. ผสมน้ำกับแป้งทอดกรอบ ตามที่กำหนดไว้ข้างซอง นำปลาที่นึ่งไว้ชุปแป้ง นำลงทอด ให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน วางลงในชามที่จะใช้เสิร์ฟ พักไว้
4. นำกะทิใส่กระทะตั้งไฟ พอเดือดตักออก 1/4 ถ้วย ที่เหลือนำน้ำพริกอีกส่วน ลงผัดให้สุกข้น ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลที่เหลือจากเครื่องปรุง น้ำพริกแกงคั่วชิมรสดีแล้ว ตักราดบนตัวปลา และนำกะทิที่ตักไว้ราดข้างบน โรยใบมะกรูดหั่นฝอย รับประทานกับผักเครื่องเคียง
เครื่องปรุงน้ำพริกแกงคั่ว
พริกแห้งผ่าเอาเม็ดออกล้างสะอาดบีบให้แห้ง 9 เม็ด

ข่าหั่นบางๆ 5 แว่น

กระชายหั่นตามขวางบางๆ 1 ช้อนชาพูน

กระเทียม 15 กลีบ

รากผักชีหั่นฝอยละเอียด 3 ราก

กะปิ 1 ช้อนชา

น้ำตาลปีบ 1 ช้อนชา

ตะไคร้หั่นฝอย 1 ต้น

ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1/2 ช้อนชา

หอมแดง 3 หัว

พริกไทย 20 เม็ด

เกลือ 1 ช้อนชา

น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำพริกแกงคั่ว
น้ำพริกแห้ง ตะไคร้ ข่า ผิวมะกรูด กระชาย หอมแดง กระเทียม พริกไทย รากผักชีหั่นละเอียด เกลือ กะปิ มาโขลกรวมกันให้ละเอียด
หมายเหตุ ปลาที่จะใช้ทำห่อหมก จะใช้ปลาชนิดอื่น หรือ ปลาน้ำจืดที่มีเนื้อมากแทนกันได้
Read more »

พักผ่อนหย่อนพุง ชวนชิม "ส้มตำ-หมี่ลวก"

Tuesday, April 12, 2011 0 comments
โดย พี่พุงหลามกับน้องพุงล้น


"โดโซะ  อิรัชไชมาเซะ" ยินดีต้อนรับ เชิญทางนี้ .... เสียงตะโกนที่บรรดาสาวสวยนุ่งน้อยห่มน้อยเรียกลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่เดินผ่าน ไปมาให้เข้าไปนั่งในร้านในซอยธนิยะ ถนนสีลม ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ผับ บาร์ของแดนอาทิตย์อุทัย ตลอดทั้งซอยสังเกตจากป้ายบอกชื่อร้านที่เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น


ในซอยนี้เองที่เราได้พบกับสุดยอด "ส้มตำ" บนถนนของแดนปลาดิบที่มีปลาร้าซ่อนอยู่เป็นการพิสูจน์ว่าอาหารอีสานสามารถเข้าไปแทรกซึมได้ทุกที่ของแผ่นดินไทย แม่ ค้าที่สลับกันขึ้นไปโขลกพริก โป๊ก...โป๊ก...ขูดครก...แครกๆๆ ตักเส้นมะละกอที่คลุกเคล้ากับเครื่องปรุงสีสันน่ากินชวนน้ำลายไหลเมื่อเห็น เส้นมะละกอคลุกเคล้าอยู่กับเม็ดพริกสีแดงและมีน้ำสีแดงอมดำเอ่ออยู่รอบๆ ยังไม่ต้องชิมก็รู้แล้วว่ารสชาติต้อง "แซบอีหลี"

ร้านนี้ไม่มีชื่อร้าน แต่ขอตั้งชื่อให้ว่าร้าน "ป้าอ้วน-ผอม" ที่สลับกันขึ้นไปทำหน้าที่แม่ครัว เปิดขายมากว่า 10 ปี เช่าซุ้มข้างถนนเปิดขายส้มตำ ไก่ทอดจับมือกับร้านขายก๋วยเตี๋ยวเพื่อสู้กับค่าเช่าในพื้นที่ทองคำ มีเก้าอี้ไว้บริการลูกค้าไม่เกิน 20 ตัว บางครั้งลูกค้าต้องนั่งรอเล่นเก้าอี้ดนตรีกันสนุกสนาน ระหว่างรอก็มีของสวยๆงามๆให้ชมกับแสงสียามค่ำคืนและสาวๆเชียร์แขกเข้าร้าน มองได้ไม่เบื่อเป็นแน่



มาถึงรสชาติอาหารกันบ้างหลังจากดื่มด่ำอาหารตาจนเพลิน ที่ร้านนี้มีเมนูให้เลือกไม่มากแต่ทุกอย่างเมื่อนำมาวางบนโต๊ะแล้วนำมาคลุก เคล้ากินด้วยกันได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะส้มตำกับเส้นหมี่ลวก "ต้องสั่ง" เส้น หมี่ลวกคลุกกับน้ำส้มตำปนกับเส้นมะละกอเคี้ยว กรุบกริบ แซบลิ้นกับเส้นหมี่ที่อุ้มน้ำส้มตำที่กลมกล่อมตักเข้าปากรับรองไม่เสียรส ชาติ ...สุดยอดจริงๆ แล้วฉีกปีกไก่ทอดตามเข้าปากอีกชิ้น หืม...อร่อยเด็ดเลยทีเดียว  มีทั้งตำไทย-ลาว รสชาติอ่อนโยนและร้อนแรงเลือกสั่งได้ตามปากปรารถนา


ยังมีอีกเมนูที่ขอแนะนำห้ามลืมสั่งเด็ดขาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ "หอย" ต้อง ยอมรับว่าหอยแครงลวกร้านนี้สด ใหม่ และกรอบ น้ำจิ้มรสเด็ด แถมคนขายยังช่วยแงะหอยอ้าเปลือกจัดเรียงอย่างสวยงามก่อนจะเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ และไม่ต้องแปลกใจหากจะเห็นหน้าคนเสิร์ฟหอยที่ดูไม่สบอารมณ์นักเพราะไปกี่ ครั้งต่อกี่ครั้ง "คุณพี่แงะหอย" แสดงออกทางสีหน้าได้แบบเดียวคือ "มึนๆ" ไร้รอยยิ้มแต่รับรองว่าลวกหอยและจับหอยอ้าได้ประทับใจจริง ฝีมือเยี่ยมลวกหอยได้สุกแบบพอดีจึงพอให้อภัย  ขอ แนะอีกนิดว่าหอยแครงกับเส้นหมี่ลวกนี่ก็อร่อยไม่แพ้กัน ตักน้ำจิ้มราดไปที่ตัวหอยที่วางบนเส้นหมี่ลวกพอดีคำตักเข้าปาก....ไม่มี กลิ่นเหม็นคาวสักนิดเดียว....สองพี่น้องพุงหลามกับพุงล้น ...คอนเฟิร์ม

ราคาชาวบ้านติดดินกินได้

ร้านนี้เปิดขายตั้งแต่บ่ายสองถึงตีสอง เส้นทางสู่ความอร่อยก็ไปไม่ยากแค่นั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงสถานี "ศาลาแดง" แล้วลงฝั่งซอยธนิยะเดินไปเกือบสุดซอยจะอยู่ทางด้ายซ้ายมือ

ติดต่อ : matichononline@hotmail.com
Read more »